BIOTIK SHOP ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ คัดสรรเพื่อคุณ

  เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก   
  ตะกร้าสินค้า (0)

D-CONTACT ดีคอนแทค

หากมีปัญหา 
สายตาฝ้าฟาง ตามัว มองไม่ชัด เคืองคันแสบ ต้อชนิดต่างๆ 
กลางคืนมองไม่ชัด ประสาทตาเสื่อม ตาแห้ง เยื่อบุตาอักเสบ วุ้นในตาเสื่อม 
 


มองหา.. D-CONTACT ดีคอนแทค 

เลขทะเบียน อย. เลขที่ 24-1-20555-1-0060 
ขนาดบรรจุ 1 กล่อง 30 แคปซูล 

สอบถาม 089-1150102 ไลน์ tong481.bhip

วุ้นในลูกตาเสื่อม >>14 ล้านคน วุ้นในตาเสื่อม สาเหตุจากคอมฯและโทรศัพท์ ในคนที่เป็นโรคอาการวุ้นในตาเสื่อม เวลาลืมตาจะเห็นเป็นคราบดำ ๆ เหมือนหยากไย่ ลอยไปลอยมาเหมือนคราบที่ติดกระจก โดยจะเห็นชัดก็ต่อเมื่อมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง เช่น ท้องฟ้าขาว ๆ ฝาห้องขาว ๆ ฝาห้องน้ำขาว ๆ จะเห็นเป็นคราบดำ ๆ ลอยไปลอยมา ในบางคน อาจมีอาการมากกว่านั้นคือ ประสาทตาฉีกขาด จะมองเห็นแสงแฟลชในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา ซึ่งอาการนี้น่ากลัวมาก ๆ และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิมจะตาบอดหรือไม่ ? สาเหตุของโรค การใช้สายตามากเกินไป หรือเพ่งจอคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ เป็นเวลานาน คือสาเหตุของโรควุ้นในตาเสื่อม


ตาต้อ" เป็นกลุ่มของโรคตา "ต้อ" 

ตาต้อ มีลักษณะแตกต่างกัน วันนี้มาทำความรู้จัก "ตาต้อ" ด้วย 7 คำถามต่อไปนี้กันดีกว่า 

1.โรคต้อของตามีกี่โรค และมีความแตกต่างกันอย่างไร ตอบ คำว่าต้อเป็นคำทั่วไปหมายถึงตา ดังนั้น เมื่อบอกว่าเป็นโรคต้อ ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเป็นโรคต้อชนิดใด ที่พบบ่อย ๆ และควรทราบ เรียงลำดับตามความรุนแรงจากน้อยไปมาก ดังนี้ 
1) โรคต้อลม (Pinguecular) มีลักษณะเป็นเยื่อสีขาวหรือขาวเหลืองบริเวณตาขาวข้าง ๆ ตาดำ เกิดจากการถูกสิ่งระคายเคืองต่อเยื่อบุตา (เช่น ลม ฝุ่น แสงแดด) มาเป็นเวลานาน มักทำให้มีอาการเคืองตาง่าย ไม่ทำให้ตามัวหรือบอด 
2) โรคต้อเนื้อ (Pterygium) โรคต้อเนื้อเป็นโรคที่ต่อเนื่องมาจากโรคต้อลม แต่เยื่อบุตาลามเข้ามาถึงบริเวณกระจกตาดำ (cornea) เป็นลักษณะคล้ายเนื้อเยื่อสีขาวออกแดงบริเวณกระจกตาด้านหัวตาหรือหางตา เกิดจากการถูกสิ่งระคายเคืองมาเป็นเวลานานหลายปี ทำให้มีอาการเคืองตาและตาแดงบริเวณต้อเนื้อ เมื่อถูกสิ่งระคายเคือง ไม่ทำให้ตามัวหรือบอด 
3) โรคต้อกระจก (Cataract) โรคต้อกระจกเป็นโรคที่เกิดจากการขุ่นของเลนส์แก้วตา (lens) ในลูกตา ทำให้การมองเห็นภาพมีลักษณะคล้ายเป็นหมอกหรือควันขาว ๆ บัง มักเป็นจากการเสื่อมสภาพของเลนส์ตาตามอายุ แต่อาจเป็นตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดหลังอุบัติเหตุต่อดวงตาก็ได้ มักทำให้ตามัวมากขึ้นเรื่อยจนอาจมองไม่เห็นในที่สุดถ้าไม่ได้รับการรักษา 
4) โรคต้อหิน (Glaucoma) ต้อหินเป็นโรคที่มีความดันในลูกตาสูงจากการระบายออกของน้ำเลี้ยงในลูกตา (aqueous) น้อยผิดปกติ ทำให้ลูกตาแข็งขึ้น จนกระทั่งกดขั้วประสาทตา (optic disc) ทำให้มีการเสียของลานสายตาการมองเห็น จนกระทั่งตาบอดสนิทได้ในที่สุด ส่วนโรคต้ออื่น ๆ ที่เป็นภาษาเฉพาะถิ่น เช่น ต้อลิ้นหมา คือต้อเนื้อ หรือโรคต้อลำไย คือต้อหินแต่กำเนิด เป็นต้น 

2.โรคต้อลม สาเหตุเกิดจากลม การใส่แว่นจะป้องกันโรคได้หรือไม่ 
ตอบ สิ่งระคายเคืองที่เป็นสาเหตุของโรคต้อลม เป็นไปได้ทั้งจากลม ฝุ่น หรือแสงแดดจ้า ๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคต้อลมแล้ว ยังทำให้ผู้ที่เป็นต้อลมอยู่แล้ว มีอาการเคืองตามากขึ้น ซึ่งต้อลมจะลุกลามมากขึ้นเมื่อสัมผัสกับสิ่งระคายเคืองดังกล่าว แว่นตามักช่วยกันลมเฉพาะจากทางด้านหน้า จึงไม่เพียงพอต่อการป้องกันทั้งลม ฝุ่น และแสงแดด ดังนั้น คำแนะนำที่ดีที่สุดจึงควรให้ผู้ป่วยพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีลม ฝุ่น หรือแสงแดดจ้า ๆ จะเป็นประโยชน์มากกว่า

3.โรคต้อเนื้อ เกิดจากการกินเนื้อ และหลังลอกต้อเนื้อควรงดอาหารประเภทเนื้อสัตว์จริงหรือไม่ 
ตอบ โรคต้อเนื้อ เกิดจากการเสื่อมสภาพของเยื่อบุตาบริเวณข้างตาดำ จากการสัมผัสสิ่งระคายเคือง เช่น ลม ฝุ่น แสงแดด แม้มีลักษณะคล้ายเป็นก้อนเนื้อ แต่ไม่ได้มีคามสัมพันธ์กับอาหารประเภทเนื้อ และการกินอาหารประเภทเนื้อหลังการลอกต้อเนื้อ ก็ไม่ทำให้แผลเกิดการอักเสบหรือเกิดต้อเนื้อขึ้นใหม่แต่อย่างใด

4.โรคต้อกระจกจำเป็นต้องเป็นทุกคนหรือไม่ ตอบ โรคต้อกระจกเกิดจากการเสื่อมสภาพของเลนส์แก้วตา ทำให้เลนส์แก้วตาซึ่งควรมีลักษณะใส กลับมีสีขาวหรือขาวอมน้ำตาลมากขึ้น เมื่อมนุษย์ทุกคนมีอายุมากขึ้นจะต้องเกิดการเสื่อมของเลนส์ตาทุกคน เมื่อการขุ่นของเลนส์ตามากขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดปัญหาตามัวจะเรียกว่าเป็นโรคต้อกระจก ดังนั้น มนุษย์ทุกคนจะต้องเป็นต้อกระจกแน่นอน แต่อาจเป็นตั้งแต่อายุมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละบุคคล 

5.โรคต้อกระจกสามารถใช้ยาหยอดรักษาให้หายได้หรือไม่ ตอบ ปัจจุบันยังไม่มียาหยอดตา หรือยากินที่สามารถให้การรักษาโรคต้อกระจกให้หายขาดได้ การรักษาที่ได้ผลคือการผ่าตัด (หรืออาจเรียกว่าลอกต้อ) เอาเลนส์ตาธรรมชาติที่ขุ่นเป็นต้อกระจกออก และใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่ โดยวิธีการเอาเลนส์ตาที่เป็นต้อกระจกออกอาจใช้วิธีดันออก หรือใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (ultrasound) สลายออกก็ได้ แต่ยังไม่มีการใช้แสงเลเซอร์ในการผ่าตัดโรคต้อกระจก 

6.โรคต้อหิน ต้องรักษาโดยการผ่าตัดเสมอไปหรือไม่ และการผ่าตัดทำเพื่อวัตถุประสงค์ใด ตอบ โรคต้อหินมีหลายชนิด ดังนั้นการรักษาจึงมีหลากหลายวิธี เช่น การใช้ยาหยลอดตาลดความดันตา ยากินลดความดันตา การใช้แสงเลเซอร์ และการผ่าตัดโดยในกรณีที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ไม่ใช่การผ่าเอาหินหรือของแข็งใด ๆ ออกจากตา แต่เป็นการผ่าตัดเพื่อเปิดทางระบายน้ำเลี้ยงในลูกตา (aqueous) ออกจากลูกตา ทำให้ความดันตาลดลงและไม่เป็นอันตรายต่อขั้วประสาทตา 

7.โรคต้อต่าง ๆ เป็นโรคกรรมพันธุ์หรือไม่ ตอบ โรคต้อลมและต้อเนื้อ เป็นโรคที่เกิดจากการสัมผัสสิ่งระคายเคืองจึงไม่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม โรคต้อกระจกในผู้สูงอายุเกิดจากการเสื่อมของเลนส์แก้วตาตามสภาพ ไม่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่โรคต้อกระจกที่เกิดในเด็ก หรือเป็นแต่กำเนิดในบางรายอาจเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ส่วนโรคต้อหินอาจเป็นได้ทั้งเป็นและไม่เป็นโรคพันธุกรรม แต่ในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคต้อหิน เมื่ออายุเกิน 40 ปี ควรได้รับการตรวจวัดความดันตากับจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวังโรคต้อหินที่อาจเกิดขึ้นได้

 

ดีคอนแทค ขจัดทุกปัญหาของดวงตา!!

ผลิตภัณฑ์ดีคอนแทค Dcontact เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการของดวงตา 

-ท่านที่มีสภาพตาสั้นเทียม, สายตายาว, สายตาเอียง 
-ผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์มาเป็นระยะเวลานาน 
-ท่านที่มีจอสายตาแปรปรวนสภาพการณ์ที่เกิดจากโรคเบาหวาน 
-ผู้ที่ใช้ คอมพิวเตอร์ เป็นเวลานาน 
-ผู้ที่ขับรถยนต์เหรือผู้ปฏิบัติงานผู้ที่ทำหน้าที่ผลัดกลางคืนป็น ระยะเวลานาน (อย่างเช่น คนขับ taxi, คนขับรถขนของ) ผู้สูงอายุที่มีสายตาฝ้าฟางที่มีความโอนเอียงที่น้ำนัยน์ตาจะไหลเมื่อเหลือบเห็นแสงจ้า วุ้นในตาเสื่อมซึ่งเป็นเหตุให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง
-ผู้เป็นเยื่อบุดวงตาอักเสบ -ผู้ที่เป็นต้อกระจก, ต้อหิน, ต้อเนื้อ, ต้อลม -ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมากๆ ท่านที่มีอุปสรรคจอประสาทตา 
-คนที่เป็นโรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน ไทรอยด์ ภูมิแพ้ สามารถทานได้ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆทั้งสิ้น 
-ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์บำรุงดวงตา “ดีคอนแทค” สามารถป้องกันและแก้ปัญหาตามัว มองไม่ชัด และต้อทุกประเภทของคุณได้อย่างชัดเจน เห็นผลเร็ว รับประกันความพอใจ 100%\

ติดต่อ 089-1150102 ไลน์ tong481.bhip


ส่วนประกอบหลักในดีคอนแทค (D-CONTACT)

 

-สารสกัดจากดอกดาวเรือง(มีสารLutein 30 มก.Zeaxanthin 0.9 มก.) 150 มก. 
-สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ 30 มก. 
-สารสกัดจากส้ม(มีสารQuercetin) 30 มก. 
-ยีสต์สกัด 30 มก. 
-เบต้า-แคโรทีน 5 มก. 
-วิตามีน บี 2 2 มก. 
-เจลาติน 42.78 มก. 
-น้ำ 10.20 มก. 
-Brilliant Blue FCF 0.01 มก.

*สารสกัดดอกดาวเรือง(ซานโทฟิว , ไคลป์ท๊อกซาติน) จากการศึกษากายวิภาคของมนุษย์พบว่าสารสีเหลืองในผนึกเลนส์ตาและจอประสาทตา macula lutea ส่วนใหญ่เป็นซานโทฟิว ,ไคลป์ท๊อกซาดิน ซึ่งองค์ประกอบ 2 ตัวนี้เท่านั้นที่สามารถจะผ่านเข้าไปในเลนส์ผนึกและจอประสาทตา lutea macula เพื่อเป็นอาหารบำรุง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะสามารถคงอยู่ในตาเพื่อพื้นฟูดวงตาได้อย่างง่ายขึ้น ช่วยบรรเทาผลกระทบจากอนุมูลอิสระทีเป็นอันตราย ช่วยดูดซับแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตราย ต่อตาและหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บจากการลำแสงที่มากระทบดวงตาการเปลี่ยนแปลงของจอประสาทได้แล้วกลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้สูงอายุเสียประสิทธิภาพการมองเห็นแต่ถ้าพวกเขาสามารถบำรุงดวงตาด้วยการเสริมซานโทฟิวและไคลป์ท๊อกซาตินเข้าไปก็จะเป็นประโยชน์ในการรักษาสายตาของพวกเขา และอาจลดอุณหภูมิ เลนส์ของจอประสาทตาและเลนส์ตาด้วย และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจกด้วย ส่งเสริมการมองเห็น เมื่อแสงสว่างและออกซิเจนมากระทบลูกตาจะทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาแต่ซานโทฟิว ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระเข้มข้นสูงมากจะช่วยกรองแสงสีน้ำเงินและลดการเกิดปัญหาที่จะทำให้การมองเห็นที่ไม่ดีทำให้การมองเห็นชัดเจนแม่นยำมากขึ้น ป้องกันจอตา จอตาประกอบไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว (DHA) ดังนั้นซานโทฟิวเป็นสารที่มีประโยชน์สำหรับจอตาช่วยในการหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายโดยการทำปฎิกริยาออกซิเดชั่นเมื่อจอตาจะรับแสง ลดการเกิดต้อกระจก ซานโทฟิวซึ่งเป็นแคโรทีนตัวเดียวเท่านั้น ที่สามารถอยู่ในผนึกเลนส์ตาได้อนุมูลอิสระจะมาทำลายโปรตีนในเลนส์ตาและก่อให้เกิดต้อกระจก ช่วยรักษาการรับสีของตา เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการรับสีของจอตาผิดปกติ เซลล์รับแสงรูปแท่งและรูปพีระมิดจะเกิดน้อยลงหากเราเสริมด้วยซานโทฟิวก็จะช่วยในการรับสีของจอตาได้ดีขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าแคโรทีนนอยส์สามารถทำงานโดยใช้รวมกับองค์ประกอบอื่นๆหากใช้แยกองค์ประกอบหนึ่งก็จะไม่สามารถช่วยในการฟิ้นฟู การต่อต้านได้ ดังนั้นอาหารเสริมใช้ร่วมกันจะให้ผลดีมากขึ้น 

*เบตาแคโรทีน เป็นองค์ประกอบตั้งต้นพื้นฐานของวิตามินเอ เรียกว่า “วิตามินของลูกตา” ซึ่งมันจะช่วยรักษาให้ดวงตามีสุขภาพที่ดี เสริมสร้างระบบการมองเห็น ช่วยส่งเสริมการผลิตเม็ดสีแสง intraocular เสริมสร้างสายตาให้ดีขึ้น และป้องกันตาบอดสีกลางคืน นอกจากนี้ยังอาจเสริมสร้างการทำงานของตาในการแยกแตกต่างของสี 


*วิตามินบี 2 อาจถือได้ว่าเป็นอาหารเสริมเหมาะสมแก่การสร้างความเจริญเติบโตให้แก่คนทั่วไปที่แตกต่างวัยกัน บุคคลที่ขับรถเวลากลางคืนเป็นประจำ หรือผู้สูงวัย

 

วิธีรับประทาน ดีคอนแทค (D-CONTACT)

เช้า 2 แคปซูล และเย็น 2 แคปซูล 

-อาการปรับสมดุล "ดวงตา" ที่แสดงว่าท่านได้ผลตอบรับในทางที่ดี อาจเกิดขึ้น 3-7 วัน หลังทาน ดี-คอนแท็ค - ตาสว่างขึ้น , แจ่มใส - อาจมีอาการปวดกระบอกตา (เฉพาะบางคน) - มีน้ำตาไหล หรือ มีขี้ตาออกมาก(เฉพาะบางคน) 

-ให้รับประทานต่อไป...หากทีอาการมากเกินไปจนทนไม่ไหวให้ลดปริมาณการทานเหลือ เช้า 1 แคปซูล เย็น 1 แคปซูล หลังอาหาร ขณะที่ทานยาดีคอนแท็ค จะต้องดูแลตัวเองปกติ หลีกเลี่ยงปัจจัยสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ เช่น ต้อลม ควรหลีกเลี่ยงให้ตาโดนลม โดยการใส่แว่นตาเป็นต้น

ติดต่อไลน์ tong481.bhip

ประสบการณ์ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์

 


ติดต่อสั่งซื้อ  089-1150102, 098-3938979

LINE@D-CONTACT บำรุงตา  https://line.me/ti/p/%40cxs2736x

LINE@BIOTIK SHOP  https://line.me/ti/p/%40fpr7747e

กดติดตาม มีโปรโมชั่น ด้วยนะครับ

Advertising Zone    Close
 
Online:  1
Visits:  125,703
Today:  6
PageView/Month:  105

ยังไม่ได้ลงทะเบียน

เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com